การเลือกสีที่เหมาะสม เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญของการสร้างแบรนด์ ไม่ว่าจะบนโลโก้ บนตัวสินค้า หรือบนแพคเกจ เพราะนอกจากรูปร่างของโลโก้และการเล่นคำในสโลแกนแล้ว สีถือเป็นตัวช่วยในการสื่อสารระหว่างแบรนด์กับกลุ่มลูกค้าได้มากเกือบเทียบเท่ารูปร่างเลยเชียว เพราะจากงานวิจัยของทีม Elsevier ประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2013 เรื่องสีและการเรียนรู้ กล่าวว่า สีสามารถส่งผลกับความรู้สึกของบุคคลทั่วไป และสามารถขยายความหมายของแบรนด์เพิ่มจากโลโก้ได้ ซึ่งส่งผลให้ลูกค้าหรือผู้บริโภคอยากที่จะเลือกแบรนด์ที่ตอบโจทย์ของลูกค้าด้านความรู้สึกได้ หัวข้อนี้เราจะมาแนะนำการเลือกใช้สีเพื่อการสื่อความหมายของแบรนด์ ซึ่งนำไปประยุกต์ใช้กับการเลือก Packaging ได้

สีดำ = อำนาจ, ความเป็นใหญ่, ความเชี่ยวชาญ, ความลึกลับน่าค้นหา

สีดำมักถูกใช้เจาะกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นและกลุ่ม Hi-End บ่งบอกถึงความน่าค้นหาและสื่อถึงความเป็นเลิศในขณะเดียวกัน ตัวอย่างแบรนด์ที่ใช้สีนี้ ได้แก่ Adidas, Uber, Chanel, Jack Daniel’s

สีแดง = ความหลงใหล, ความรัก, ความโกรธ, ความหิว, ความตื่นเต้น

สีแดงโดยทั่วไปแล้วเป็นสีที่น่าดึงดูด กระฉับกระเฉง และมีพลัง มักถูกนำไปใช้ในโลโก้ของแบรนด์ที่เกี่ยวข้องกับอาหาร ความงาม และความบันเทิง สีแดงบนโลโก้ถือว่าเป็นหนึ่งในสีที่น่าจดจำที่สุด ตัวอย่างแบรนด์ที่ใช้สีนี้ ได้แก่ Coca-Cola, KFC, Youtube, Air Asia, H&M

สีเหลือง = ความอบอุ่น, นวัตรกรรม, ความสุข, ความระมัดระวัง

สีเหลืองเป็นสีโทนร้อนที่ทำให้เกิดความรู้สึกอบอุ่น สุขสบายใจ แต่โดยทั่วไปแล้วมักไม่ถูกใช้เป็นสีเดียวในโลโก้แบรนด์ แต่จะใช้ร่วมกับสีอื่นเพื่อเป็นไฮไลท์ให้ดูโดดเด่น ส่วนใหญ่แล้วจะอยู่บนโลโก้แบรนด์ที่เกี่ยวกับยานยนต์ หรือบางทีอาจเกี่ยวกับอาหาร ตัวอย่างแบรนด์ที่ใช้สีนี้ ได้แก่ Shell, Ferrari, Nok Air, McDonald, DHL

สีฟ้า/น้ำเงิน = ความไว้ใจ, ความจงรักภักดี, ความเป็นมืออาชีพ

สีฟ้าหรือน้ำเงินมักถูกใช้ในองค์กรณ์ต่างๆ ซึ่งสื่อความหมายถึงความมั่นคงปลอดภัยและความเป็นมืออาชีพในขณะเดียวกัน มักถูกใช้ในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเงิน ซอฟต์แวร์ และการแพทย์ ตัวอย่างแบรนด์ที่ใช้สีนี้ ได้แก่ IBM, Facebook, Samsung, Krungthai Bank

สีเขียว = ธรรมชาติ, ความปรองดอง, ความอุดมสมบูรณ์, ความมีประโยชน์

สีเขียวส่วนใหญ่มักถูกใช้กับธุรกิจที่เอื้ออำนวยหรือเกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม หรือบริษัทเกษตรกรรม บริษัทด้านพลังงาน สีเขียวเป็นสีที่ให้ความรู้สึกสงบและบ่งบอกถึงการเจริญเติบโตได้เช่นกัน ตัวอย่างแบรนด์ที่ใช้สีนี้ ได้แก่ Starbucks, Betagro, Line, Heineken

สีส้ม = ความร่าเริง, ความมีชีวิตชีวา, ความสร้างสรรค์

สีส้มเป็นอีกสีที่ถูกใช้อย่างแพร่หลายในธุรกิจเกี่ยวกับอาหาร ศิลปะ และกีฬา ด้วยความที่สีส้มเป็นสีที่สว่าง จึงมักถูกใช้ในธุรกิจที่เจาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นเด็กเช่นกัน ตัวอย่างแบรนด์ที่ใช้สีนี้ ได้แก่ Fanta, Dunkin’ Donuts, Shopee, Hermes

สีม่วง = การศึกษา, ความสง่างาม, การเฉลิมฉลอง

ด้วยความที่สีม่วงเป็นสีแห่งความสง่างามและความดีเลิศ จึงมักถูกใช้ในวงการการศึกษามากกว่าการค้า สามารถสื่อได้ถึงการใช้สติปัญญา ตัวอย่างแบรนด์ที่ใช้สีนี้ ได้แก่ Yahoo, Cadbury, SCB, Thai Airways

สีขาว = ความบริสุทธิ์, ความสะอาด, ความสงบ, ความหวังดี, จิตวิญญาณ

สีขาวคือสีที่เป็นกลางซึ่งสื่อถึงความบริสุทธิ์และหวังดี ช่วยลดความรู้สึกแง่ลบได้เป็นอย่างดี ธุรกิจบางแห่งก็นำสีขาวมาไว้ในโลโก้ที่มีสีอื่นเพื่อสื่อถึงแง่บวกมากขึ้น ตัวอย่างแบรนด์ที่ใช้สีนี้ ได้แก่ Off-White, Calvin Klein, Celine, Zara

สีชมพู = ความหวาน, ความเป็นผู้หญิง, ความงาม

สีชมพูขึ้นชื่อว่าเป็นสีแห่งความเป็นหญิงสาว จึงมักถูกนำไปใช้กับโลโก้ที่เกี่ยวกับแบรนด์ความงาม แฟชั่น เสื้อผ้าเครื่องประดับเด็กผู้หญิง เพราะสื่อถึงความสดใสไร้เดียงสา มักไม่ค่อยเหมาะกับองค์กรณ์อุตสาหกรรมเครื่องจักร ตัวอย่างแบรนด์ที่ใช้สีนี้ ได้แก่ Barbie, Roxy, Victoria’s Secret, Wacoal

สีน้ำตาล = ความน่าเชื่อถือ, ความกำยำ, ความติดดิน

สีน้ำตาลเป็นสีที่บ่งบอกถึงความน่าเชื่อถือและพึ่งพาได้ มักถูกใช้กับธุรกิจเกี่ยวกับเกษตรกรรม สิ่งปลูกสร้าง และธุรกิจอาหาร ตัวอย่างแบรนด์ที่ใช้สีนี้ ได้แก่ Hershey’s, OTOP, M&M’s, A&W

นอกเหนือจากสีหลักๆข้างต้นแล้ว สีอื่นที่ไม่ได้ถูกกล่าวมาก็ล้วนมีความหมายแฝงทั้งนั้น ทางร้าน Dr. Packer มีบริการให้คำปรึกษาด้านการสร้างแบรนด์และการเลือกสีโลโก้รวมไปถึงแพคเกจ ลูกค้าสามารถเลือกสีจาก Pantone และแจ้งเราได้เช่นกัน เพื่อป้องกันความผิดพลาดหรือผิดเพี้ยนของสี เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการในธุรกิจด้านต่างๆ

Source: https://blog.logodesignguru.com/meaning-and-uses-of-colors-in-logo-design/

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *